ภายใต้กลยุทธ์ผสานสื่อที่หลากหลายของเนชั่น กรุ๊ป ที่ดำเนินมากว่า 3 ปีแล้วนั้น ถือเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงที่ทำให้ในปี 2559
เนชั่น กรุ๊ป สามารถเดินหน้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มภาคภูมิ และก้าวทันความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในภูมิทัศน์สื่อ พร้อมปณิธานที่จะนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ให้ทั้งความรู้และความบันเทิงที่สร้างสรรค์และมีคุณภาพ
ปี พ.ศ. 2559 เป็นปีที่ธุรกิจดิจิทัลทีวีของเครือได้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง โดยสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2 สถานีได้แก่ เนชั่นทีวี และ NOW26 ได้ก้าวหน้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในฐานะสถานีข่าวและสถานีสารคดีและสาระอันดับต้นๆ ของประเทศ ทำให้มีกลุ่มผู้ชมเพิ่มมากขึ้น และขยายฐานครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ NOW26 ที่ได้กลายเป็น 1 ใน 10 ของสถานีโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
ทางด้านสื่อสิ่งพิมพ์ของเครือเนชั่น ได้แก่ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ คมชัดลึก และ The Nation นั้น ผลจากการปรับทิศทางธุรกิจท่ามกลางความท้าทายและการแข่งขันจากสื่อในรูปแบบดิจิทัล เราสามารถขยายฐานผู้อ่านในโลกออนไลน์ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้สื่อสิ่งพิมพ์ทั้งสามยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาด และยังได้รับความเชื่อถือในด้านคุณภาพของการนำเสนอข่าวสารเหมือนเช่นตลอด 4 ทศวรรษที่ผ่านมา
นอกจากงานสื่อที่เป็นธุรกิจหลักของเครือเนชั่น ในปี 2559 ที่ผ่านมา เครือเนชั่นยังมุ่งมั่นในการขยายบทบาทในด้านอื่นๆ เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และสร้างการมีส่วนร่วมของเครือเนชั่นในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นการจัดสัมมนาและกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับองค์กรพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ การจัดกิจกรรมที่เชื่อมโยงกลุ่มผู้ชมและผู้อ่าน เช่นกิจกรรม “เนชั่นไบค์” ที่จัดขึ้นทั่วประเทศ และกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานวันเด็ก งานตรุษจีน และการร่วมจัดกีฬาฟุตบอลลีกดิวิชั่น 2 โดย NOW26 เป็นต้น
ถึงแม้ปี 2559 อาจจะเป็นปีของความเปลี่ยนแปลงและความท้าทาย โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและเชิงธุรกิจ แต่ผู้บริหารและพนักงานเนชั่น กรุ๊ป ต่างก็ร่วมมือร่วมใจทำงานกันอย่างเข้มแข็งและด้วยความเสียสละ และเราก็พร้อมเดินหน้าต่อไปด้วยความมุ่งมั่นในศักราชใหม่ในการทำหน้าที่สื่อมืออาชีพอย่างแข็งขัน และเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น และเพื่อสังคมไทยที่ดีขึ้นต่อไป
นายเทพชัย หย่อง
ประธานกรรมการ
“สื่อที่ดี” คือ ธุรกิจที่ดี
ปี 2557 นับเป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรมสื่อไทย การเกิดขึ้นของทีวีในระบบดิจิทัล 24 ช่อง นำมาซึ่งโอกาส และ ทางเลือก ทั้งกับผู้รับสื่อ และผู้ประกอบการ เปรียบเสมือนการปลดแอกอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทยจากการผูกขาดของระบบสัมปทานคลื่นความถี่ที่มีมานานกว่า 40 ปี
ภายใต้คลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลง ต้องนับว่า “เครือเนชั่น” ได้ขึ้นไปยืนอยู่บน “ยอดคลื่น”ที่ต้องเผชิญทั้งโอกาส และความท้าทายในคราวเดียวกัน ภายหลังชนะประมูลทีวีดิจิทัลถึง 2 ช่อง คือ “เนชั่นทีวี” ช่องข่าว หมายเลข 22 และ NOW ช่องวาไรตี้มาตรฐาน SD หมายเลข 26
หนึ่งปีของอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัล ประโยชน์ตกอยู่กับผู้รับข่าวสารอย่างเห็นได้ชัด การแข่งขันที่รุนแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการทุกรายเร่งพัฒนาคอนเทนท์ เพิ่มมาตรฐาน เพื่อเสนอตัวเป็นตัวเลือกของผู้บริโภค และสำหรับเครือเนชั่น เราภาคภูมิใจยิ่งที่ ดิจิทัลทีวี ทั้งสองช่องของเรา ได้ผ่านขวบปีแรกอย่างสวยงาม
ท่ามกลางสนามแข่งขันร้อนแรง วันนี้ “เนชั่นทีวี” ของเรา ก้าวขึ้นไปอยู่ในลำดับต้นๆ ของดิจิทัลทีวีประเภทช่องข่าว ส่วนน้องใหม่ NOW26 ได้สร้างความแตกต่างอย่างโดดเด่น ในแบบฉบับ Biz-Life-Variety และแม้จะเป็นขวบปีแรก แต่ทั้งสองช่องสามารถทำรายได้ในระดับที่น่าพอใจ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางใว้
บนยอดคลื่นของการเปลี่ยนแปลง “เนชั่น กรุ๊ป” มุ่งมั่นพัฒนาคอนเทนท์ไม่หยุดนิ่ง ปี 2557 เราเร่งลงทุนทั้งในด้านบุคคลากร และอุปกรณ์ที่ทันสมัย พัฒนารูปแบบการนำเสนอ ยกระดับสู่มาตรฐานสากล เพื่อสร้างการยอมรับเหนือคู่แข่ง
เหนืออื่นใด ความสำเร็จของเนชั่นกรุ๊ป ไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ หรือ ดิจิทัลทีวีทั้ง 2 ช่อง ล้วนอยู่บนพื้นฐานของ “ศรัทธา” ที่คนไทยมีต่อเนชั่นกรุ๊ปในฐานะ “สื่อคุณภาพ” ตลอด 44 ปีของการก่อตั้ง
ศรัทธาที่ประชาชนมีให้กับความเป็นมืออาชีพ รอบรู้ ลุ่มลึก และยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพ ของคนเนชั่น คือ “สินทรัพย์” ที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ และเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จที่ผลักดันให้เนชั่นกรุ๊ป ก้าวไปข้างหน้าโดยไร้ขีดจำกัด
“ศรัทธา” ที่สื่อเครือเนชั่นได้รับ ไม่ได้เกิดขึ้นในข้ามวัน “ศรัทธา”ถูกสะสมอยู่ในองค์กรสื่อแห่งนี้หลายทศวรรษ จากแรงสนับสนุนของผู้เกี่ยวข้องทุกระดับ จากพนักงานทุกคนที่เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ จากผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นทุกคน ที่ร่วมสนับสนุนนโยบายแห่งความเป็นอิสระ และยึดมั่นในอุดมการณ์เดียวกัน
กว่า 44 ปี บนเส้นทางวิชาชีพสื่อ ทางเดินของเนชั่นกรุ๊ปไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะธุรกิจสื่อ เป็นธุรกิจที่ยืนอยู่บน “ศรัทธา” นอกจากภารกิจสร้างผลกำไรให้ผู้ถือหุ้นในระดับที่น่าพอใจ เรายังต้องมีหน้าที่ รับผิดชอบต่อสังคม และมีจริยธรรมในวิชาชีพ โจทย์ธุรกิจของเราจึงยากกว่าอุตสาหกรรมอื่น
แต่เราเชื่อเสมอว่า “สื่อที่ดี เท่ากับ ธุรกิจที่ดี”
เราเชื่อว่า ผลประโยชน์ระยะยาวทางธุรกิจ และสังคม เป็นผลประโยชน์เดียวกัน หากสื่อเครือเนชั่นสามารถดำรงไว้ซึ่งความเป็น “สื่อที่ดี” มีผู้บริหารและผู้ถือหุ้นที่ยึดมั่นในหลักจริยธรรม ทั้งด้านธุรกิจ และกองบรรณาธิการ ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มทุนธุรกิจ หรือกลุ่มการเมือง ประโยชน์จะตกอยู่กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งมวล ไม่ว่าจะเป็น ผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร พนักงาน และ ผู้รับสื่อ ซึ่งก็คือภาคประชาชน
ตราบใดที่ยังรักษาศรัทธาที่ประชาชนมีให้ เรามั่นใจว่า เนชั่นกรุ๊ป จะเติบโตไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าโลกของธุรกิจสื่อจะหันเหไปในทิศทางใด เราพร้อมก้าวสู่ “ยอดคลื่น” เพื่อเผชิญทั้งโอกาส และความท้าทายเสมอ
และนั่นคือประโยชน์ที่เกิดขึ้นทั้งกับ องค์กร และสังคม
ก้าวสู่ปีที่ 45 และตลอดไป ทุกลมหายใจอยู่บนหลักยึดที่มั่นคง “สื่อที่ดี คือบ่อเกิดของธุรกิจที่ดี”
ในฐานะผู้สนับสนุนสำคัญ เราหวังว่าท่านจะเห็นด้วยกับเรา
สุทธิชัย หยุ่น
ประธานกรรมการ
The Sky Has No Limit
ปี 2556 ซึ่งเป็นที่ 43 ของเนชั่น กรุ๊ป ถือเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นปีที่เรามีสื่อครบทุกด้านและมีสื่อมากที่สุดในประเทศไทย เรามีหนังสือพิมพ์ ทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีสื่อออนไลน์ วิทยุ นอกจากนี้ยังมีฟรีทีวีเพิ่มเข้ามาอีก 2 ช่อง คือ ช่องเนชั่น ทีวี และช่อง NOW จากการเข้าประมูลทีวีดิจิทัลในช่วงก่อนสิ้นปีซึ่งถือเป็นโอกาสสร้างศักยภาพธุรกิจในอนาคต และนับเป็นจุดเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจของบริษัทจากเดิมที่มีธุรกิจสิ่งพิมพ์เป็นหลัก จะก้าวสู่ธุรกิจโทรทัศน์มากขึ้น
การได้ฟรีทีวี 2 ช่องถือเป็นขุมทองของเครือเนชั่นจะเป็นเครื่องยนต์ที่ส่งให้เราบินได้สูง บินได้ไกล ช่วยให้เรามีอนาคตที่สดใสขึ้นเพราะนอกจากฟรีทีวีจะสร้างรายได้ใหม่ๆ เข้ามา จากมูลค่าของธุรกิจโฆษณาสื่อโทรทัศน์ที่อยู่ในหลักแสนล้านบาทแล้วการมีฟรีทีวียังจะสนับสนุนการนำเสนอเนื้อหาสื่อสิ่งพิมพ์ในเครืออย่างเช่น The Nation กรุงเทพธุรกิจ คม ชัด ลึก ให้ขยายตัวไปสู่กลุ่มผู้ชมใหม่ๆ เพราะฉะนั้นทีวีดิจิทัลจะเป็นการดึงเราให้ขยับขึ้นมาทั้งองค์กร
ต่อจากนี้ไป The sky has no limit เพราะเมื่อเรามีสื่อพร้อมครบทุกด้าน บุคลากรพร้อม เราก็พร้อมรุก พร้อมรบ
เครือเนชั่นวางตำแหน่งตัวเองเป็นสื่อคุณภาพระดับแถวหน้า ที่ผ่านมาเราจึงมุ่งเน้นพัฒนาคนสื่อให้ก้าวพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเราสร้างคนสื่อที่หลอมรวมความสามารถทั้งด้านนิว มีเดียวิดีโอ ทีวี สิ่งพิมพ์ วิทยุ เรานำนวัตกรรมใหม่ๆ ของวงการสื่อมาใช้ ทำให้มีศักยภาพในการนำเสนอข่าวสารอย่างฉับไว ทันท่วงที และหลากหลายรูปแบบ
ที่สำคัญเป็นการทำงานที่ยืนหยัดอยู่บนคุณภาพมีจริยธรรมและความรับผิดชอบ จึงนำมาซึ่งความน่าเชื่อถือของข่าวสารซึ่งเป็นสาระสำคัญสุดสำหรับคนสื่อ
เมื่อก้าวสู่แลนด์สเคปใหม่ของวงการสื่อจากการเปิดเสรีอุตสาหกรรมโทรทัศน์หลังการผูกขาดสัมปทานคลื่นความถี่มานานกว่า 40 ปี จากที่เคยมีแค่ ช่อง 3, 5, 7, 9, 11 และ Thai PBS จะเกิดช่องใหม่อีก 24 ช่อง จึงหมายถึงแลนด์สเคปใหม่ทางธุรกิจของเครือเนชั่นที่เรามั่นใจว่า เรามีความพร้อมที่จะเดินหน้า เพราะเราทำในสิ่งที่เรามีความเชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพด้านสื่อที่เราสร้างฝึกปรือฝีมือกันมานานหรือคอนเทนท์คุณภาพซึ่งเป็นที่ยอมรับและเป็นจุดแข็งของเครือ
ช่องข่าวอย่างเนชั่น ทีวี หรือช่องเนชั่น แชนแนลเดิม เมื่อเข้าสู่ดิจิทัลทีวี เรามั่นใจว่าเนชั่น ทีวี จะเป็นเบอร์หนึ่งด้านช่องข่าวทันที และขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการสร้าง "เนชั่น ทีวีทาวน์" เพื่อเป็นศูนย์กลางในการทำทีวีดิจิทัลของเครือและการสร้างสรรค์รายการใหม่ๆ ที่จะมีความเข้มข้นขึ้น
ส่วนช่อง NOW จะเติบโตจากฐานหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและกรุงเทพธุรกิจ ทีวี NOW ทีวีจะเป็นช่องวาไรตี้ไลฟ์สไตล์ สำหรับคนรุ่นใหม่ นักธุรกิจ ซีอีโอ ตลอดจนเอสเอ็มอี จะนำเสนอสาระที่เกี่ยวข้องกับคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ ดนตรี วัฒนธรรม เกมโชว์ กีฬา เพื่อตอบสนองกลุ่มคนเมืองที่กำลังขยายตัวทุกขณะ
สำหรับผลประกอบการของปี 2556 ก็ถือเป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ เพราะเป็นปีที่เรามีผลประกอบการออกมา “สูงที่สุด” นับตั้งแต่เราก่อตั้งมาจากการปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อให้ก้าวทันทั้งความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้คน
ที่ผ่านมา เนชั่น กรุ๊ปได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมสื่อหลายครั้ง เราจึงมั่นใจว่า อนาคตของเนชั่นกรุ๊ป จะก้าวไปอย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง เพราะเราเป็นองค์กรที่ “ครุ่นคิด”“มองหาโอกาส”และ “พัฒนาสิ่งใหม่ๆ” ตลอดเวลา
นายสุทธิชัย หยุ่น
ประธานกรรมการ
จากปีแห่งพลัง 'N' สู่ปีแห่ง The Next Big Thing
การปรับตัวของภูมิทัศน์สื่อในรอบปีที่ผ่านมาทั้งในเวทีสากลและภายในประเทศไทยเองเป็นการทดลองความเตรียมพร้อมและความสามารถของวงการสื่อไทยอย่างท้าทายยิ่ง
ผลประกอบการของบริษัทและการยอมรับในสังคมไทยทั่วไปตลอดปีที่ผ่านมาเป็นเครื่องยืนยันว่าการตระเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้านของเราสามารถส่งให้บริษัทสามารถ "ขี่ยอดคลื่น" แห่งการเปลี่ยนแปลงได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
เราได้ฝึกปรือทีมงานทั้งด้านเนื้อหา การขาย การตลาด ตลอดจากระบบเทคโนโลยีและการบริหารทั่วไปเพื่อรับกับโอกาสใหม่ ๆ ในแวดวงสื่อสารมวลชนทุก ๆ ด้าน ยุทธศาสตร์หลักของเราคือการรักษาป้อมปราการหลักคือสิ่งพิมพ์ของเราด้วยเทคโนโลยีใหม่เพื่อให้เกิดการผสมผสานอย่างกลมกลืนระหว่างสื่อใหม่กับสื่อกระแสหลัก
เราสร้าง Convergent Newsroom เพื่อหลอมรวมการทำงานของฝ่ายข่าวทุกสื่อของเรา (หนังสือพิมพ์ ทีวี วิทยุ เว็บไซท์ แอพพลิเคชั่น มือถือ แทบเบล็ท) อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นสำนักสื่อแห่งแรกของประเทศไทยและเป็นบริษัทสื่อระดับต้น ๆ ของเอเซียที่ริเริ่มระบบการทำงานเพื่อให้เข้ากับคลื่นแห่งการท้าทายระลอกใหม่ของโลก
นักข่าวนักเขียนของเราได้รับการฝึกฝนมากว่าสิบปีในการทำหน้าที่เป็น Mobile Journalists (Mojo) เพื่อเสริมความแกร่งและยกระดับความสามารถเหนือกว่าคนทำสื่อทั่วไปในแวดวงเดียวกัน ดังนั้นเมื่อจังหวะของการทำสื่อหลาย ๆ platforms มาถึง เราจึงสามารถขี่ยอดคลื่นได้อย่างรวดเร็วและปราดเปรียว
นักขายนักการตลาดของเราก็ได้รับการฝึกฝนในการเสนอลูกค้าครบวงจรทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ ทีวี ดิจิตัลและการจัดกิจกรรมเสริมทุก ๆ ด้านเพื่อตอกย้ำนโยบาย customer-centric ตอบสนองความต้องการของตลาดยุคใหม่ได้อย่างทันท่วงที
เราจึงเป็นผู้นำด้านการเข้าไปใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์หรือ Social Media อย่างปราศจากความสงสัยในวงการสื่อและธุรกิจในส่วนรวม
เราได้พิสูจน์ความเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรมด้านสื่ออย่างต่อเนื่อง และก่อนสิ้นปีที่ผ่านมาเราก็ได้เปิดตัว iSnap ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีล้ำหน้าที่สามารถทำให้การอ่านหนังสือพิมพ์ในเครือเนชั่นเป็นประสบการณ์น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะสามารถนำเอาภาพ เสียง และวิดีโอจากทีมข่าวกว่า 300 ชีวิตของเรานำเสนอผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ของเราได้อย่างน่าอัศจรรย์สำหรับคนจำนวนมาก
ไม่เพียงเราสามารถสร้างความเป็นผู้นำทางด้านสื่อในประเทศเท่านั้น เรายังรุกเข้าพม่าเพื่อปักธงเตรียมผลิตสื่อในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนของเราในอันที่จะทำให้เครือของเราเป็นผู้บุกเบิกสื่อไทยสู่ตลาดอาเซียน
เราได้เปิดโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่ย่างกุ้งขณะเดียวกันก็ได้ร่วมมือกับหุ้นส่วน Eleven Media ในการนำเสนอข่าวพม่าเป็นภาษาอังกฤษผ่านเว็บไซท์ที่ทำร่วมกันเพื่อให้สอดคล้องกับการเตรียมแผนเปิดตัวหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษรายวันในประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้
ขณะเดียวกันเราตระหนักอย่างยิ่งว่าไม่ว่ารูปแบบการนำเสนอข่าวสารและเนื้อหาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่หัวใจของการทำหน้าที่ของเรายังยึดมั่นอยู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม เสนอความจริงต่อผู้บริโภคข่าวสารและปกปักรักษาหลักการแห่งจริยธรรมของสื่ออย่างมุ่งมั่นและจริงจังตลอด
ดังนั้นการก้าวเข้าสู่แวดวงการศึกษาด้วยการตั้งมหาวิทยาลัยเนชั่นจึงเป็นการตอกย้ำความชัดเจนของทิศทางแห่งการต่อยอดจาก "ข้อมูล" สู่ "ข่าว" สู่ "ความรู้" โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้าง "ปัญญา" ให้กับสังคมเป็นส่วนรวม
เพียงแค่วางเป้าหมายที่ก้าวสู่การปฏิวัติสื่อยังไม่พอ เราได้ปรับระบบและกระบวนการบริหารภายให้เข้มข้น ทันการ และมีความเป็นเอกภาพภายใต้ปรัชญา One Nation, One Family เพื่อให้ทีมงานทุกระดับผนึกกำลังวิ่งก้าวกระโดดไปอย่างปราดเปรียวคล่องแคล่วในลักษณะการบริหารยุคดิจิตัลอย่างแท้จริง
นั่นคือการตอกย้ำความโปร่งใส, เปิดเผย, และมีจริยธรรมอันเป็นรากฐานของการสร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของเครือเนชั่นมาตั้งแต่วันแรกของการก่อตั้งเครือเนชั่นเมื่อ 42 ปีก่อน
สรุปว่าปี 2555 เป็นปีแห่งการพิสูจน์พลังของ "คนพันธุ์ N" ในการสร้างผลงานด้านสื่อ, เนื้อหา, และการมีส่วนร่วมสร้างสังคมในทุก ๆ ด้าน ตรงกับความเป็น "N" ที่ย่อมาจากความเป็น Nation ที่ผสมกับคุณสมบัติสำคัญยิ่งยวดที่มีความเป็น "N" เช่น
Novel ความล้ำหน้า
Nimble ปราดเปรียว
Niche ยอดกะทิมีเฉพาะที่นี่แห่งเดียว
Non-stop Search for the Next Big Thing
และการแสวงหา "สิ่งยิ่งใหญ่ยอดเยี่ยม" ทุกลมหายใจ
เมื่อปี 2556 นำมาซึ่งการเปิดศักราชใหม่แห่งเทคโนโลยีการสื่อสารเช่น 3G และดิจิตัลทีวีที่จะพลิกโฉมของวงการสื่ออีกครั้งหนึ่งอย่างคึกคักยิ่ง เราก็ย่อมพร้อมที่จะเข้าสู่ภูมิทัศน์แห่งสื่อยุคใหม่ด้วยความมั่นใจกับการตระเตรียมที่มีมาแล้วหลายปี รอจังหวะของ the Next Big Thing อย่างไม่ยอมละสายตาเป็นอันขาด
ที่เนชั่น เรามุ่งมั่นทำงานด้วยแรงบันดาลใจและแนวทางจากผู้มีผลงานเลิศล้ำระดับโลกเสมอเพราะเราเชื่อในความเป็นเลิศระดับสากล มิใช่เพียงแค่ความสามารถระดับประเทศเท่านั้น และการรวมพลังแห่งนวัตกรรม ความมุ่งมั่นและจริยธรรมคือทิศทางหลักที่จะนำ NMG และเครือข่ายของเราเข้าสู่ "ยุคทอง" แห่งสื่อสารมวลชนยุคใหม่อย่างแน่นอน
นายสุทธิชัย หยุ่น
ประธานกรรมการ
ปี 2554 ประเทศไทยประสบเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น ทั้งความปิติยินดีในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา และการสูญเสียจากมหาอุทกภัยดังที่เราทราบดี การทำหน้าที่ของสื่อต่างๆ ของเครือเนชั่นในปี 2554 นอกจากจะยังมั่นคง เที่ยงตรงต่อหน้าที่ ซึ่งเป็นจุดยืนที่เรายึดมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงมหาอุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์ในรอบ 50 ปี เครือเนชั่นได้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางรับน้ำใจจากคนไทยทั่วทุกสาขาอาชีพ ส่งมอบต่อผู้ที่ตกทุกข์ลำบากจากวิบัติภัยครั้งนี้อย่างเข้มแข็ง ผ่านสื่อต่างๆ ที่เรามีครบวงจร
เครือเนชั่นในฐานะสื่อคุณภาพ ไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างนวัตกรรมและ ความแปลกใหม่ให้กับวงการสื่อ พร้อมมุ่งพัฒนาเนื้อหาที่มีคุณค่า เพื่อตอบสนองต่อผู้รับสื่อทุกท่าน
ปี 2555 จึงเป็นอีกหนึ่งปีที่ผู้อ่าน และผู้สนับสนุนเครือเนชั่นจะได้ร่วมประสบการณ์ใหม่ไปกับสื่อใหม่ๆ ด้วยเราตระหนักว่า เมื่อโลกหมุนเร็วขึ้น วิถีชีวิต หรือ ไลฟ์สไตล์ของคนไทยได้เปลี่ยนแปลงด้วยอัตราเร่ง สื่อหลักอย่างเครือเนชั่นจึงไม่พลาดโอกาสที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่ารูปแบบการรับสื่อจะแปรเปลี่ยนไปอย่างหลากหลายอย่างไร
ทิศทางธุรกิจในปี 2555 ของเครือเนชั่น นอกจากจะมุ่งเพิ่มคุณภาพของสื่อสิ่งพิมพ์ อย่างไม่หยุดยั้ง เรายังคงเดินหน้านำเนื้อหาที่มีคุณค่า จากผลผลิตของทีมข่าวที่มีคุณภาพของเรา นำเสนอออกไปในทุกๆแพลทฟอร์ม ที่ทำให้ผู้รับสารเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา
ความนิยมในสื่อใหม่ (New Media) และสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยที่อัตราการเข้าถึงเพิ่มขึ้นไม่หยุดยั้ง เครือเนชั่นไม่ได้มองข้ามปรากฎการณ์นี้ เราพร้อมเต็มที่ที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่สื่อใหม่ เพื่อเป็นช่องทางนำเนื้อหาที่มีคุณภาพของเราส่งต่อไปยังผู้รับสื่อให้มากที่สุด
เราเชื่อมั่นว่าการมุ่งขยายสู่แพลทฟอร์มใหม่ๆ ของการนำเสนอ ข่าวสาร-ข้อมูล-ความรู้-ความบันเทิง หรือคอนเทนท์ทั้งมวลของเครือเนชั่น ในรูปแบบ New Media และ Social Media จะเป็นทั้งส่วนสนับสนุน และเพิ่มสีสัน ให้กับสื่อสิ่งพิมพ์ที่แข็งแกร่งของเครือเนชั่น
ในปี 2555 เราเชื่อมั่นว่า สื่อสิ่งพิมพ์จะเติบโตต่อเนื่องไปอีก โดยสื่อใหม่จะเป็นสื่อเสริมที่เราให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อน สอดรับกับกระแสความนิยมของคนไทยต่อสื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
จุดเปลี่ยนอุตสาหกรรมโทรทัศน์ โอกาสของเครือเนชั่น
ปี 2554 สื่อโทรทัศน์มีส่วนแบ่งจากรายได้โฆษณาหกสิบกว่าเปอร์เซ็นต์จากยอดงบประมาณโฆษณาของสื่อทุกๆ สื่อ ที่มียอดเงินประมาณหนึ่งแสนล้านบาท สื่อโทรทัศน์ในประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เราได้เห็นโทรทัศน์ดาวเทียมเกิดขึ้นใหม่มากกว่า 200 ช่อง
ผู้ชมทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ลมีอัตราเติบโตก้าวกระโดด การแข่งขันของสื่อโทรทัศน์จะเข้มข้นอย่างน่าติดตาม ผู้ที่ได้เปรียบคือผู้ที่มี "เนื้อหา" (Content) เพราะไม่ว่าจะเป็นสื่อดั้งเดิมหรือสื่อใหม่ เนื้อหาสาระเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด
เครือเนชั่นซึ่งมี Content มากองค์กรหนึ่งของประเทศ จะมีบทบาทที่โดดเด่นมากขึ้น ในอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ ในปี 2555 เราพร้อมที่จะผลิต Content ป้อนสู่ Free TV, Satellite TV, IPTV หรือ TV ทุกๆ รูปแบบ
เครือเนชั่นไม่จำเป็นจะต้องตีกรอบตัวเองอยู่ภายใต้การทำธุรกิจสื่อเท่านั้น โอกาสที่เราจะลงทุนขยายธุรกิจอื่นๆ ที่มีอนาคตเราจะไม่ปฏิเสธ โดยเฉพาะธุรกิจด้าน Digital ทั้งในรูปแบบ E-Commerce, M-Commerce, S-Commerce, Education, Games และ Entertainment ซึ่งเป็นเวทีที่เปิดกว้าง รอผู้ที่มีความพร้อมเข้าร่วมแข่งขัน
วันนี้เครือเนชั่นมีความพร้อมเต็มที่ ในการเสริมสร้างต่อยอดและขยายธุรกิจด้านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโทรทัศน์ สื่อใหม่ การศึกษา และโอกาสการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่มีอนาคตรออยู่
เมื่อต้นปี 2554 เครือเนชั่นได้เริ่มเข้ารับผิดชอบบริหารมหาวิทยาลัยโยนกที่จัดหวัดลำปาง โดยในปีการศึกษา 2554 มหาวิทยาลัยเนชั่น ได้เปิดการเรียนการสอน สาขานิเทศศาสตร์ ณ ศูนย์ศึกษากรุงเทพฯ และเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัย ได้รับการอนุมัติให้เปลี่ยนชื่อเป็น "มหาวิทยาลัยเนชั่น (Nation University)" อย่างเป็นทางการแล้ว
สำหรับปีการศึกษา 2555 มหาวิทยาลัยเนชั่น จะเปิดศูนย์ศึกษาที่กรุงเทพฯ เต็มรูปแบบ โดยใช้อาคารด้านหน้าของเครือเนชั่นทั้งอาคาร นอกจากเพิ่มความคึกคักทางด้านนิเทศศาสตร์แล้ว เราพร้อมเปิดเพิ่มคณะบริหารธุรกิจ ด้วยการสนับสนุนของทีมงานหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ซึ่งมีเครือข่ายครอบคลุมทุกวงการ และจะมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยให้การสอนด้านธุรกิจของเรามีคุณภาพ ตามนโยบายที่เรามุ่งเน้นคือ "เรียนกับมืออาชีพ" เน้นการปฏิบัติหรือลงมือทำด้วยตนเองในระหว่างเรียนไม่ว่าที่กรุงเทพฯ หรือลำปาง
เครือเนชั่นฯ มีความพร้อมสูงสุดที่จะเดินหน้าทำสื่อเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมไทยทุกๆด้าน อย่างมีจุดยืนมีมาตรฐานเหมือนกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ด้วยความพร้อมเพรียงของผู้บริหารรุ่นใหม่ ที่เราได้ส่งเสริมสนับสนุน และฝึกฝน จนมีความพร้อม และมั่นใจว่าผู้บริหารเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถของเครือเนชั่นฯ ให้เดินหน้าต่อไป เพื่อบรรลุเป้าหมายที่เราวางไว้อย่างมั่นคง และเข้มแข็งยิ่งขึ้นสืบต่อไป
สุดท้ายนี้ในนามของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานในเครือเนชั่นฯ ขอถือโอกาสนี้ กล่าวคำขอบคุณทุกๆ ท่านที่ให้กำลังใจ ให้การสนับสนุนเครือเนชั่น อย่างอบอุ่น มั่นคง และ สม่ำเสมอ เราให้คำมั่นว่าเราจะมุ่งมั่น ทุ่มเท ทำงานต่อไปอย่าง มั่นคง และ เที่ยงตรงต่อการทำหน้าที่สื่อคุณภาพ ด้วยความมุ่งมั่นภายใต้อุดมการณ์ คาดว่าปี 2555 เป็นปีที่เราจะประสบความสำเร็จอย่างงดงามอีกปีหนึ่ง
นายสุทธิชัย แซ่หยุ่น
ประธานกรรมการ