เนชั่นทีวี แถลงความร่วมมือ สำนักงานอัยการสูงสุด ในรายการ "เนชั่นคลายทุกข์"

เนชั่นทีวี จัดงานงานแถลงข่าวความร่วมมือระหว่าง สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด และ เนชั่นทีวี ในการผลิตรายการ “เนชั่นคลายทุกข์” รายการที่จะเป็นสะพานเชื่อมโยงการช่วยเหลือด้านกฏหมายไปสู่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

ฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เนชั่นทีวี ในฐานะสื่อมวลชน สิ่งที่เราตั้งใจทำมาโดยตลอดและทำมาอย่างยาวนานคือ อาสาทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง ในการนำพาความช่วยเหลือทางด้านกฏหมายมาสู่ประชาชน ซึ่งเราได้ร่วมกับ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด ในการที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเราเริ่มทำมาจากรายการ หมอความมหาชน กว่า 3 ปีที่ได้ทำรายการดังกล่าวขึ้นมา ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากซึ่งได้เข้าให้การช่วยเหลือมาโดยตลอด  

“ด้วยบริบทของสังคมที่เปลี่ยนไป เรื่องของภัยที่มีเข้ามาทุกรูปแบบ ภัยด้านเทคโนโลยี รวมถึงเรื่องข้อกฎหมายที่มีความสลับซับซ้อนต่อประชาชน ทำให้เรามองเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้ต่อยอดและพัฒนาขึ้นมาเป็นรายการ “เนชั่นคลายทุกข์” และ รายการ “เนชั่นระวังภัย” ทั้งหมดนี้คือเจตนารมณ์ของเนชั่นทีวี ที่ต้องการสานต่อเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมต่อไป”

คุณโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงความร่วมมือทางทางเนชั่นทีวีในครั้งนี้ว่า ในนามของสำนักงานคุ้มครองสิทธิฯ ต้องขอขอบคุณเนชั่นทีวี ที่ได้เปิดพื้นที่ให้ ประชาชนได้รู้จักอัยการคุ้มครองสิทธิ ได้เข้าให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มาเป็นผู้ดำเนินรายการร่วมกับทางเนชั่นทีวี ในหลายๆเคสที่เกิดขึ้นและประสบความสำเร็จก็มาจากการที่ผู้สื่อข่าวของทางเนชั่นทีวี ได้รับเรื่องราวร้องเรียนและประสานมาให้ทีมงานอัยการได้เข้าช่วยเหลือ

“สำหรับรายการ เนชั่นคลายทุกข์ ต้องขอเรียนว่าประชาชนที่หมดหนทาง เมื่อดูรายการแล้วจะมีทางออก รายการนี้สามารถช่วยเหลือประชาชนที่คิดว่าหมดหนทาง หรือมาเอาความรู้ทางกฎหมายที่ถูกต้องไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งคนไทยที่อยู่ในประเทศไทยหรือคนไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ ก็สามารถส่งปัญหามาได้ ท่านอยู่ที่จังหวัดไหนเรามีหน่วยงานช่วยเหลือ ปัจจุบันมีอยู่ 122 สาขาทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย”   

“อย่างไรก็ตาม ทุกเคสที่มาหาเรา เราจะนำกฏหมายเข้ามาแก้ปัญหา ทำตราชั่งให้ตั้งตรงเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อเกิดความเสมอภาคในสังคม ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เดือดร้อน หรือเป็นผู้ต้องหา สามารถมาหาเราได้ ทางสำนักงานคุ้มครองสิทธิฯ จะทำหน้าที่บรรเทาผลร้าย ช่วยเยียวยา แก้ไข ดีกว่าไปหาคนที่เป็นมิจฉาชีพ วิ่งเต้นอัยการ วิ่งเต้นตำรวจได้ แล้วสุดท้ายช่วยไม่ได้ ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข”

คุณนิรันด์ ยั่งยืน รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน กล่าวถึงเรื่องโครงการ อาสาสมัครอัยการช่วยได้ ว่า“ตามนโยบายของท่านอธิบดีอัยการสูงสุด ที่จะลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และเป็นการสร้างเครือข่ายให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนช่วยเหลืองานอัยการ อย่างที่ทุกท่านทราบว่าด้วยจำนวนเจ้าหน้าอัยการที่มีจำนวนไม่มาก ประชาชนที่ต้องการเข้าถึงก็อาจจะเป็นเรื่องยาก ซึ่งการที่เรามี “อาสาสมัครอัยการช่วยได้” กระจายอยู่ทั่วประเทศตำบลละ 2 คนทั่วประเทศ ก็จะทำให้ประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือเบื้องต้น ก็สามารถเข้าพบบุคลากรเหล่านี้เพื่อปรึกษาและแก้ปัญหาได้ หรือเป็นเคสที่ใหญ่ก็สามารถส่งต่อให้กับทางเจ้าหน้าที่อัยการได้ ก็อยากเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้ามาเป็นอาสาสมัครในโครงการนี้ ก็สามารถสมัครเพื่อเป็นเครือข่ายภาคีในการช่วยเหลืออัยการอีกทางหนึ่ง

ด้านคุณนริศ ชำนาญชานันท์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของ สำนักงานคุ้มครองสิทธิฯ ในการให้ความช่วยเหลือต่อพี่น้องคนไทยที่ทำงานในต่างประเทศ “ปัจจุบันโลกเราเหมือนโลกไร้พรหมแดน ทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายของประชากรจากประเทศไทยไปทั่วโลก มีทั้งเดินทางท่องเที่ยว เดินทางไปทำงาน หรือสมรสและย้ายที่อยู่ไปต่างประเทศ แต่คนเหล่านี้ก็อาจจะมีการไปพบปัญหาจากการไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ยกตัวอย่างในอิสราเอล ไปเจอการก่อการร้าย สงคราม หรือถูกหลอกลวงต่างๆ

ปัญหาเหล่านี้ ถ้าไม่ใช่นักกฏหมายก็อาจจะดำเนินการได้ยาก เพราะฉะนั้นทางสำนักงานคุ้มครองสิทธิ ก็ได้รับนโยบายให้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ให้ความรู้ โดยมีอัยการที่มีความรู้ความสามารถ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง และมีการร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในและต่างประเทศ กรมการกงศุล สถานทูตไทยในต่างประเทศ เพื่อให้การช่วยเหลือประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตามจากความตั้งใจผลิตรายการเพื่อเป็นสะพานในการช่วยเหลือสังคมและประชาชน ก็สามารถช่วยเหลือเคสที่ร้องเรียนมายังเนชั่นทีวี ซึ่งเป็น 2 เคสที่ประสบความสำเร็จจากกว่า 100 เคสที่ช่วยเหลือได้ “เคสแรก เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2567 ทีมข่าวเนชั่นทีวี ได้รับการร้องเรียนจากคุณย่าวัย 63 ปี ชาวจังหวัดลำปาง ว่าหลานสาว อายุ 21 ปี ถูกหลอกไปบังคับค้าประเวณีที่ประเทศดูไบ ภายหลังหลานสาวเดินทางไปถึงดูไบ เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2567 แล้วแชทกลับมาบอกว่า โดนยึดพาสปอร์ต และถูกบังคับให้ค้าประเวณี ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่าหากบังคับให้ขายจริง จะยอมปลิดชีพตัวเอง ไม่ยอมค้าประเวณีเด็ดขาด

ต่อมา ทีมข่าวเนชั่นทีวี ได้ประสานเรื่องนี้ไปยัง สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน เพื่อช่วยเหลือผู้เสียหาย จนสามารถช่วยเหลือได้สำเร็จเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยกรมการกงสุล และอัยการฯไทย ร่วมมือกันเร่งช่วยเหลือ โดยใช้เวลาประสานงานกับทางสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ เมืองดูไบ ทั้งหมด 5 ชั่วโมงในการช่วยสาวเหยื่อค้ากามได้สำเร็จ

เคสที่สองคือ คุณลุงรปภ. ที่ทำงานเข้าเวรกะดึกนาน 6 ปี จนประสบปัญหาสูญเสียดวงตา 1 ข้าง โดยนายจ้างติดค้างค่าแรงจำนวน 360,000 บาทซึ่งตลอดเวลาที่ทำงานมานายจ้างจ่ายไม่ครบ เงินเดือน 15,000 บาท ได้รับค่าจ้างเพียง 1,500 - 5,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น ทำให้ได้รับความเดือดร้อนไม่มีเงินไปรักษาดวงตาและดำรงชีพ ทีมข่าวของเนชั่นทีวีทราบเรื่องนี้จึงได้ปรึกษาไปยังสำนักงานคุ้มครองสิทธิฯ ซึ่งได้ประสานไปยังอัยการคุ้มครองสิทธิจ.ปทุมธานี ขณะนี้เรื่องก็ไปถึงยังกรมแรงงาน ลงมาช่วยเหลือในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งเคสนี้มีทั้งเรื่องติดค้างเงินค่าแรงและเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ซึ่งคณะทำงานมั่นใจว่าจะช่วยเหลือได้สำเร็จและได้รับความยุติธรรมอย่างแน่นอน

รายการเนชั่นคลายทุกข์เป็นรายการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากพี่น้องประชาชน มีการเชิญผู้เสียหายมาร่วมพูดคุยกับพิธีกร โดยมีท่านโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิฯ ให้เกียรติเป็นผู้ทรงคุณวุฒิประจำรายการในการช่วยแก้ปัญหา พร้อมเสนอทางออก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเด็นข้อกฎหมาย ร่วมด้วย"แอล" สรารัตน์ รัตนสุวรรณ ผู้ประกาศข่าวมากความสามารถ รายการเนชั่นคลายทุกช์ ออกอากาศทุกวัน อาทิตย์ เวลา 22.30 – 23.00 น.

นอกจากนี้ เนชั่นทีวียังได้ผลิตรายการ เนชั่นระวังภัย รายการที่ช่วยเตือนภัยทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นให้ประชาชนได้ระมัดระวังและตระหนักในภัยต่างๆที่ปัจจุบันมามาหลากหลายรูปแบบ ออกอากาศทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 13.40 – 14.15 น.  และในรายการ “เนชั่นระวังภัย” ยังได้เพิ่มช่วงของ“เนชั่นพร้อมช่วย” ที่พร้อมเป็นสื่อกลางในการเปิดรับเรื่องราวร้องทุกข์ ในการช่วยเหลือ แก้ปัญหา บรรเทาความเดือดร้อน ทั้งทางด้านกฏหมาย ภัยต่างๆ หรือความเสียหายที่เกิดจากบริการสาธารณะ เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียน “เนชั่นพร้อมช่วย” จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือต่อไป

ประชาชนที่ต้องการปรึกษาปัญหากฎหมาย นอกจากเปิดสายด่วนให้ประชาชนโทรเข้ามาผ่านเบอร์ 1157 แล้วยังสามารถ Inbox เข้ามาที่เฟซบุ๊ก Nation TV โดยการแจ้งเรื่องร้องเรียนเข้ามาจะมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายคอยตอบอยู่ด้วย และเรื่องไหนที่ดูแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมทางรายการก็จะคัดเลือกแล้วเชิญมามาร่วมพูดคุยในรายการต่อไป