Th En
 
ข่าวสารองค์กร
นายสุทธิชัย หยุ่น ประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำทีมผู้บริหาร ให้สัมภาษณ์ในรายการ Market Wise ทาง กรุงเทพธุรกิจทีวี
19 กุมภาพันธ์ 2556

        นายสุทธิชัย หยุ่น ประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นำทีมผู้บริหาร ให้สัมภาษณ์ในรายการ Market Wise ทาง กรุงเทพธุรกิจทีวี  เมื่อ18 ก.พ. ถึงการเพิ่มทุน 3 บริษัทเครือเนชั่น รวม 2 พันล้านบาท เพื่อเตรียมความพร้อมยื่นประมูลใบอนุญาตระบบดิจิทัลทีวี

        เครือเนชั่นเตรียมประมูลดิจิทัลทีวี หวังรายได้ทะลุ 1 หมื่นล้าน ภายใน 5 ปี มั่นใจผู้ถือหุ้นใช้สิทธิเพิ่มทุนครบ 2 พันล้าน เปิดบ้านชี้แจงแผนรุกดิจิทัลทีวี ต่อนักวิเคราะห์-นักลงทุน ลั่นหากชนะประมูลพร้อมออกอากาศภายใน 1 เดือน ชูจุดแข็งประสบการณ์และบุคลากรด้านข่าว

        นายสุทธิชัย หยุ่น ประธานกรรมการบริษทั เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเพิ่มทุนของเครือเนชั่น 3 บริษัท รวม 2 พันล้านบาท เป็นการเตรียมความพร้อมยื่นประมูลใบอนุญาตโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล ซึ่งหากบริษัทชนะการประมูลจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ทันที เพราะมีความพร้อมอยู่แล้ว โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปีรายได้ของเครือเนชั่นจะโตเท่าตัวจากปัจจุบัน 3 พันล้านบาท เพิ่มเป็น 6 พันล้านบาท และ อีก 5 ปี รายได้รวม น่าจะถึง 1 หมื่นล้าน บาท ซึ่งจะมาจากดิจิทัลทีวี 50%

        “เครือเนชั่น มีความพร้อม ทั้งด้านข่าว วาไรตี้ ทุกช่องทางที่เกี่ยวกับเนื้อหา ความน่าเชื่อถือ ความเป็นมืออาชีพ ความเป็นอิสระ ผมถือว่าเราพร้อมในทุกๆ ด้าน ยกเวน้ มีคนอาจจะสงสัยว่ามีเงิน หรือเปล่า ในฐานะที่เราอยู่ในตลาดหลักทรัพย์จึงระดมทุน ฉะนั้นประชาชนทั่วประเทศมีสิทธิร่วมเป็นเจ้าของกับเรา”

        ด้าน นางสาวดวงกมล โชตะนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากบริษัทชนะการประมูลดิจิทัลทีวี รายได้รวมของบริษัทจะเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปีนี้ที่คาดการณ์ว่าจะมีรายได้รวมเติบโต 15% โดยหากทั้งเครือประมาณการว่าภายใน 3 ปี จะมีรายได้รวม 6 พันล้านบาท ในส่วนของบริษัทก็จะมีรายได้ 70% ของรายได้รวม

“ผลประกอบการของเราเติบโตต่อเนื่องปี 2555 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 87% ปีนี้ก็ยังโตต่อเนื่องซึ่งหากชนะประมูลทีวีดิจิทัล รายได้ก็จะทยอยเข้ามาทันที แต่ในปีหน้าจะเห็นรายได้จากทีวีดิจิทัลเข้ามาแบบมีนัยสำคัญ”

        นายเทพชัย หย่อง บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น ประเมินว่า ในเบื้องต้น กสทช. จะออกใบอนุญาตให้กับทีวีดิจิทัลที่เป็นทีวีสาธารณะ ตามมาด้วยทีวีที่เป็นเชิงพาณิชย์ ที่เป็นช่องข่าว 5 ช่อง และช่องวาไรตี้ ที่เป็นช่องบันเทิงและสารประโยชน์ สารคดีทั้งหลายอีก 14 ช่อง โดยเครือเนชั่น สนใจทั้งส่วนของข่าวและที่เป็นวาไรตี้ เนื่องจากมีประสบการณ์ และเป็นสื่อที่มีความพร้อมด้านบุคลากรสูงที่สุด

        ปัจจุบันเรามีทีวีดาวเทียม 3-4 ช่อง หนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ บทบาทของเครือเนชั่นที่ผ่านมา ก็เป็นที่ยอมรับของสังคม ฉะนั้น นี่ถือว่าเป็นเวทีที่ใหญ่มาก เพราะเป็นทีวีเสรีสังคมกว้างไกล 20 ล้านครัวเรือนทั่วไทย ประชากรเกือบทุกคนจะได้ดูทีวีที่เป็นฟรีทีวีอย่างแน่นอน

        ขณะที่ นายอดิศักดิ์ ลิมปรุงพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) (NBC) กล่าวว่า เครือเนชั่นมีความพร้อมที่จะลงแข่งขัน โดยเฉพาะด้านบุคลากรข่าว ขณะนี้พิธีกรหลักๆ ของเครือเนชั่นกลับมาอยู่ที่ช่อง หลังจากที่บริษัทไม่ได้ทำรายการป้อนช่อง 9 ขณะที่รายได้ของเนชั่นแชนแนลก็ไม่ได้ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น ซึ่งหากเนชั่นสามารถชนะการประมูล ช่องดิจิทัลทีวี จะสามารถออกอากาศได้ภายใน

        หนึ่งเดือน โดยจะเห็นโฉมใหม่ของ เนชั่นแชนแนลและก็ในแง่ของการลงทุนต่างๆ เชื่อว่าเครือเนชั่นอย่ นระดับที่ได้เปรียบ เพราะว่าความพร้อมในเรื่องของคน ประสบการณ์หรือการทำข่าวที่เป็นสถานีข่าว ถ้าเทียบกับ 5 ช่องดิจิทัลทีวีแล้ว ก็ไม่เป็นรองใคร